น้ำใจของน้องหมา - น้ำใจของน้องหมา นิยาย น้ำใจของน้องหมา : Dek-D.com - Writer

    น้ำใจของน้องหมา

    วันนี้บังเอิญได้ไปพบเรื่องสั้นมาเรื่องหนึ่งคิดว่ามันโดน!!มากขอรับ ก็เลยอยากให้เพื่อนๆได้อ่านกันดูขอรับ

    ผู้เข้าชมรวม

    365

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    365

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 มิ.ย. 51 / 11:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เคยเจอเรื่องแบบนี้บ้างไหมขอรับคิดว่าถ้าเพื่อนๆได้อ่านคงได้ข้อคิดหลากหลาย
    ว่าแล้วก็ไปอ่านกันเลยขอรับ..หุหุ
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ขอบคุณภาพจาก  http://i205.photobucket.com/albums/bb162/noshihara/DOG.jpg

      เมื่อวานนี้ฝนตกหนักตั้งแต่ฉันยังไม่ก้าวขาออกมาจากห้อง

      ชีวิตในเมืองหลวงที่ต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนไปทำงานให้ทันเวลาตอกบัตร

      ทำให้ฉันไม่มีเวลารีรอที่จะรั้งรอให้เม็ดฝนที่หล่นลงมาอย่างบ้าคลั่งสงบก่อน

      เมื่อเอาชีวิตรอดมาถึงรถไฟใต้ดินสถานีลาดพร้าวได้ 

      พนักงานรีบยื่นถุงพลาสติกสำหรับใส่ร่มให้ทันที

      ใช่สิ...ร่มของฉันเปียกมากเพราะใช้ฝ่าสายฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา

      จนกระทั่งโผล่พ้นออกมาจากสถานีศูนย์สิริกิตต์ 

      เยี่ยมหน้าออกมามองฟ้าเป็นลำดับแรก

      เฮ้อ...ค่อยยังชั่วหน่อยเพราะสายฝนเริ่มโปรยปรายลงมาอย่างปรอยๆ เท่านั้น

      ฉันกางร่มคู่ชีพออกก้าวเดินเพื่อจะไปต่อรถเมล์

      ก้าวไปไม่ถึงสิบก้าว...ฝนก็เทกระหน่ำพร้อมกับซัดสาดอย่างโมโหโกรธา

      ครั้นจะหันหลังกลับมายังสถานีก็ไกลเกินไป

      หรือจะหันกลับไปยืนที่ป้ายรถเมล์ที่เพิ่งผ่านมาก็มีแต่ผู้คนยืนเบียดเสียดกันหลบฝนอยู่

      ทำไงดีล่ะเนี่ย

      หันไปเห็นตู้โทรศัพท์ข้างหน้าอยู่สองตู้

      เอ...แต่เคยได้ยินมาว่าถ้าฟ้าฝนตกกระหน่ำห้ามไปหลบที่ตู้โทรศัพท์นี่หน่า

      ไม่งั้นอาจจะมีสายฟ้าฟาดผ่าลงมาเปรี้ยงปร้างได้

      แต่ถ้าขืนเดินต่อไปคงต้องเปียกไปทั้งตัวอย่างแน่นอน

      ตัดสินใจเดินเข้าไปที่ตู้โทรศัพท์

      ตู้หนึ่งมีผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่แล้ว

      อีกตู้มีน้องหมาจรจัดสองตัวที่เนื้อตัวสกปรกมอมแมมนอนหลบฝนตัวสั่นเทาอยู่

      ไม่มีพื้นที่เหลือพอให้ฉันก้าวเข้าไปได้อีกแล้ว

      นอกจาก...ไล่น้องหมาทั้งสองตัวออกไปให้เปียกปอนแทน

      ฉันลังเลที่จะก้าวขาเข้าไป...และตัดสินใจยืนนิ่งอยู่นอกตู้นั้น

      ใจสงสารน้องหมามากกว่าตัวเองที่ตอนนั้นเริ่มเปียกปอนไปด้วยน้ำฝน

      ยืนอยู่ไม่ถึงสิบนาทีน้องหมาตัวที่หนึ่งลืมตาขึ้นมามองฉันแล้วลุกขึ้นยืน

      น้องหมาตัวที่สองจึงลืมตาขึ้นมามองฉันบ้าง

      น้องหมาตัวแรกวิ่งฝ่าสายฝนออกไป

      น้องหมาตัวที่สองก็วิ่งตามน้องหมาตัวที่หนึ่งออกไปเช่นกัน

      ฉันก้าวขานำพาตัวเข้าไปหลบฝนในตู้โทรศัพท์

      หลังจากนั้นจึงชะโงกหน้าออกมามองหาน้องหมาทั้งสองตัวอย่างเป็นห่วง

      และแล้วก็เห็นว่าน้องหมาไปนอนคุดคู้หลบอยู่ใต้เก้าอี้ที่นั่งตรงป้ายรถเมล์

      เนื้อตัวยังคงสั่นเทาไปด้วยความเหน็บหนาว

      แต่ตาก็หลับพริ้มอย่างไม่สนใจไยดีกับสิ่งรอบข้าง

      ฉันยืนหลบฝนอยู่ภายในตู้โทรศัพท์ที่น้องหมาสองตัวนั้นเสียสละพื้นที่ให้กับมนุษย์อย่างฉัน

      เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ฉันได้คิดถึงอะไรมากมาย

      โดยเฉพาะในเรื่องของความมีน้ำใจ

      ขอบใจมากนะน้องหมาทั้งสองตัว

      ขอบใจจริงๆ


      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×